ทำไมถึงเลือกมาพักที่นี่
🙋แป้ง : เห็นรีวิวของหลายๆที่ สวยดี เป็นโรงแรมสีขาวดูสะอาด ราคาไม่แพงมาก 2,xxx รวมอาหารเช้า ที่สำคัญเพิ่งเปิดมาสองปีน่าจะไม่มี 🧟‍♂️🧟‍♀️
🙋‍♂️ปิ๊บ : ตามใจแป้งครับ

ก่อนมาพักคิดว่าจะดีเหมือนในรีวิวมั้ย
🙋แป้ง : น่าจะดีนะ เพราะรีวิวเยอะมากจริงๆ แล้วก็ไปในทางที่ดีทุกรีวิวเลย
🙋‍♂️ปิ๊บ : ในมุมที่ไว้ถ่ายรูปน่าจะสวยนะถ้ามีแดด แล้วก็สระว่ายน้ำดูน่าจะสวยมาก

หลังมาพักแล้วเป็นไงบ้าง
🙋แป้ง : กลิ่นหอมมาก ตั้งแต่เข้าโรงแรมเลย ดูเป็นที่ที่น่าพักมาก มาถึงตอนกลางคืนสระว่ายน้ำสวยมาก คนไม่พลุกพล่าน ตรงรีเซฟชั่นมีขนมเยอะมาก (ฟรีด้วยนะ😍) ในห้องเปิดประตูมากลิ่นหอมเช่นกัน เตียงสวยมากสไตล์โมร็อคโค ห้องสีมิ้นตัดกับสีขาวสวยงาม อาหารเช้าไม่เยอะเหมือนโรงแรมใหญ่แต่อิ่มมาก มีขนมไทยให้ทานด้วย

🙋‍♂️ปิ๊บ : เข้ามาถึงชอบสระว่ายน้ำมาก กลางคืนก็สวยแล้ว กลางวันยิ่งสวย ชอบการออกแบบที่มีการเล่นกับแสงและเงา ในห้องกว้างขวางกำลังดี ห้องน้ำกว้าง ของกินในห้องฟรีทั้งหมด โซนอาบน้ำเล็กไปนิดเดียว ราคาไม่แพงเลยถ้าเทียบราคานี้กับคุณภาพและหลายๆที่ ชอบอาหารเช้าที่นี่อร่อยดี มีให้เลือกเป็นจานเดี่ยวคนละจาน ข้าวมันไก่ ข้าวหมกไก่ หรือ ข้าวต้มไก่ มีไข่ดาวไส้กรอกไม่อั้น ข้าวเหนียวสังขยาอร่อนมาก

สรุป เยี่ยมเลยกับราคา 2,xxx บาท สวย สะอาด อร่อย มีมาซ้ำแน่นอน

วันนี้เราจะพาไปสัมผัสกับน้ำทะเลใสแจ๋ว ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส เสียงคลื่นเบาๆ และเรือยอร์ช Blue Voyage ที่สวยงามและบริการ vip มาก

นี่เป็นครั้งแรกในการขึ้นเรือยอร์ชของเรา ก่อนอื่นเราเริ่มทำการบ้านกันก่อนเพื่อค้นหาเรือยอร์ชที่จะเดินทางไปเที่ยวกัน เราอ่านรีวิวหลายเว็บหลายเพจมาก เลยตัดสินใจว่าที่นี่แหละ น่าจะบริการดีสุด

ลำที่เราเลือกราคาอยู่ที่ 65,000 บาท เดินทางได้ 20 คน คนต่อไปจะมีค่าใช้จ่ายคนละ 1,000 บาท ไปได้ไม่เกิน 45 คน (แต่เราว่า 20-30 น่าจะกำลังดีนะ) 

เราเริ่มเดินทางกันจากกรุงเทพกันแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยัง ท่าเรือมารีน่ายอร์ชคลับ พัทยา ซึ่งเรามาถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมงเพื่อเตรียมตัว 

เมื่อมาถึงท่าเรือจะมี Butler 1 คนคอยต้อนรับและดูแลความเรียบร้อยของเราและสัมภาระ Butler ดูแลดีมากบอกเลย ต้องชื่นชมบริษัทที่อบรมพนักงานมาดีมาก 

วันนี้อากาศค่อนข้างขมุกมัวเนื่องจากเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว แต่มันมีข้อดีที่ Butler บอกเรามาคือ ถึงฝนจะตกเล็กน้อย ซึ่งทำให้อากาศไม่ร้อนมาก และแดดไม่แรง สามารถขึ้นมานั่งเล่นบริเวณด้านหัวเรือได้แบบสบายๆ สนุกกว่านั่งตากแดดแน่นอน 

เรือสามารถวิ่งได้สองเส้นทางโดยเราเป็นคนเลือก ทางแรกจะไปทางเกาะครามน้อย เกาะลิง ทางนี้จะออกบันเทิงหน่อย มีเจ็ทสกี มีบานาน่าโบ๊ท ส่วนอีกทางจะไปทางเกาะไผ่ ซึ่งจะส่วนตัวกว่าและบรรยากาศสวยกว่า ซึ่งเราเลือกเดินทางไปทางเกาะไผ่ 

บนเรือมีห้องนอนสองห้องสวยงาม ห้องนั่งเล่นในตัวเรือ โซนที่นั่งท้ายเรือ และที่ฟินมากคือโซนที่นั่งด้านหัวเรือ โดยมีพนักงานอยู่ 4 คน คือ butler ที่ดูแลเราจากด้านล่าง พนักงานในเรือ 2 คนและคนขับ 1 คน เมื่อขึ้นเรือจะมี welcome drink และผลไม้สดให้รองท้อง

รูปเรือด้านล่างนำมาจากเพจ Blue Voyage นะครับ

โชคดีมากพอขึ้นเรือมาฝนหยุด อากาศดีมาก มีแดดบางๆ ไม่ร้อน ลมพัดเย็นสบายตลอดทาง เราใช้เวลาเดินทางไปยังเกาะประมาณ 3 ชั่วโมง ช่วงนี้เป็นช่วงปรับตัวให้เข้ากับเรือ ใครเมาเรือง่ายก็หายากินซะ ถ้าไม่ได้เตรียมมา ทางเรือก็จะมีให้ 

จากนั้น butler ก็จะมาแนะนำเรือว่าตรงไหนเป็นยังไง รวมถึงสอบถามเรื่องการปิ้งย่างอาหาร บนเรือสามารถสั่งอาหารจากทางเรือตอนจองได้ หรือจะนำของสดไปเองแล้วให้พนักงานบนเรือจะช่วยกันย่างก็ได้ ซึ่งเราเลือกออฟชั่นนี้ เราสั่งบาร์บีคิวและซื้อของทะเลสดขึ้นไป (ถ้าหิวควรหาอะไรรองท้องไปซักหน่อย เพราะตอนแรกจะปิ้งช้านิดนึง เนื่องจากเตาไม่ใหญ่มาก แต่สักพักนี่กินกันไม่ทันเลย)

กิจกรรมบนเรือนอกจากกินแล้ว ก็ถ่ายรูปเล่นได้ตลอดเส้นทาง เรียกว่า 3 ชั่วโมงก่อนถึงเกาะนี่ ถ่ายรูปกันได้ไม่หยุดเลย 

เกาะไผ่ สวยงามจริงสมคำร่ำลือ น้ำใสมาก บรรยากาศดี เราจะจอดเรือห่างจากชายหาดพอสมควร ซึ่งตอนนี้มีเวลาสองชั่วโมง ใครอยากว่ายน้ำ ดำน้ำ สามารถเล่นได้ที่ข้างเรือเลย ทางเรือมีผ้าเช็ดตัวให้ มีแว่นมีสน็อกเกิ้ลให้ ส่วนใครจะไปหาด มีเรือลำเล็กวิ่งไปส่งให้ที่หาดให้

ขากลับมายังท่าเรือ ใช้เวลาสามชั่วโมงเช่นกัน สัมผัสความสวยงามของพระอาทิตย์ตกดิน พักผ่อน นั่งคุยกัน ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติยามเย็น ไม่น่าเชื่อ 8 ชั่วโมงผ่านไปเร็วมาก ทุกอย่างสวยมาก บริการบนเรือประทับใจมาก

สรุป 65,000 บาทคุ้มมาก สวย สนุก บริการดี น่าจะไปซ้ำอีกแน่นอน